Lost in SCB Open Banking Hackathon สไตล์ dev

#STORY

26 พ.ค. 2563

ตอนแรกที่เห็นโพสประกาศงานนี้ก็ไม่ได้อยากมาอะไรเพราะน่าจะออกแนว business ซึ่งไม่ใช่สาย dev อย่างผม และผมก็ไม่ชอบงานแบบนี้เท่าไหร่ แต่พอโดนรุ่นพี่ล่อซื้อแบบ 100% ก็เลยคิดว่าควรจะลองก่อนที่จะไม่ชอบ สุดท้ายก็ตกลงเข้าทีมกับพี่ฟา พี่เปียว และพี่นัยนั่นเอง

โฉมหน้าทีม SCB Hackthon winner แบบชัด ๆ

ขอข้ามเรื่องตอนสมัครเลย เพราะไม่ได้สมัครเอง (พี่ฟาสมัครให้)​ แต่เท่าที่รู้คือรอบ qualify โหดเอาเรื่อง เพราะมีทีมรุ่นน้องในชมรมหลายคนก็พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

Day 1

ทางขึ้น NapLab

งานจัดที่ NapLab Chula ที่โดนเพื่อนขายมาหลายรอบแล้ว วันนี้ได้มาจริง ๆ ซะที

ผมมาถึงงานช่วงเริ่มลงทะเบียนประมาณ 16.30 น. แต่เพราะพี่คนอื่น ๆ ทำงานกันเลยรอถึงประมาณ 17.30 น. บอกเลยว่ายืนรอคนเดียวเหงามากกกกกกก

พอถึงเวลาพิธีกรก็เปิดงานบอกเล่าความเป็นมาและ requirement ในการแข่งขันครั้งนี้ พอรู้ criteria ของการแข่งก็กล้าพูดเลยว่าเป็นส่วนผสมระหว่าง tech กับ business ที่ลงตัว เพราะ criteria ให้คะแนนกับ tech หนักมาก หลัก ๆ คือได้ใช้ API ที่ให้มาจริง ๆ และให้คะแนนกับแนวคิดทาง business ที่น่าสนใจด้วยเหมือนกัน

หลังจากนั้นก็เริ่ม hack กันยาว ๆ แต่ด้วยความที่ทีมเราทำการบ้านมาไม่มากและเป็น dev จ๋าทั้งสี่คนทำให้ขาดไอเดียหนักมาก เพราะ API ที่ได้มาดูทำอะไรได้ไม่ค่อยเยอะ (แค่จ่ายบิลกับกู้ยืม) พอคิดไปคิดมาก็มีพ่อของคนในทีมที่ทำงานเกี่ยวกับ law firm บอกว่าน่าลองทำเกี่ยวกับวงแชร์เพราะใคร ๆ ก็เล่น รวมถึงแม่ผมด้วย… คนในทีมก็เฮฮากันใหญ่เพราะเป็นไอเดียที่ปั่นมาก แต่ก็น่าสนใจมากเหมือนกัน

พอได้ไอเดียแล้วก็ลงมือแบ่งงานและเริ่ม dev กับทำ slide ผมรับผิดชอบส่วน backend ก็เลยเริ่มทำในส่วน authentication และลองวาด wireframe และ user journey คร่าว ๆ ของระบบ จนถึงประมาณตีสามรู้สึกไม่ไหวแล้วก็เลยไปนอน

Day 2

Drink

Snack

ตื่นมาประมาณ 6 โมงเช้า หร้อมเริ่มวันใหม่ด้วยช็อคโกแลตและอาหารยามเช้า พี่ ๆ ในทีมบอกว่าเมื่อคืนลองศึกษาเรื่องกฎหมายแล้วก็รู้สึกว่าไอเดียนี้สุ่มเสียงหลายประเด็น ก็เลยต้องหาทางหลบหลีกกฎหมายด้วยการเปลี่ยนไอเดียให้คล้าย ๆ เล่นแชร์ สุดท้ายกลายเป็นอีกไอเดียคือ P2P lending และเชียร์ว่าให้ไปทางนี้

หลังจากล้างขี้ตาก็เลยนั่งร่าง wireframe และ user journey ของไอเดียใหม่ แล้วก็เริ่ม dev กันไปเรื่อย ๆ จนถึงช่วง 11 โมง ซึ่งเปิดโอกาสให้จองคิวคุยกับ mentor ในงาน ทีมเราเลยจองไปสามคน และตกลงว่าจะลองเล่าไอเดียทั้งสองให้ mentor ฟัง หลังจากนั้นก็กินข้าวเที่ยงกัน

Pizza time

Pizza time

ปรากฏว่าหลังจากได้เห็น reaction จาก mentor ทั้งสามแล้วก็รู้สึกว่าไอเดียวงแชร์ดูตื่นเต้นมากกว่า จนต้องกลับมาตัดสินใจอีกครั้งว่าจะทำไอเดียไหนดี

หลังจากคุยกันอย่างเคร่งเครียดก็สรุปว่าจะทำไอเดียวงแชร์ (ทีมชอบความตื่นเต้นเร้าใจ 555) เพราะ mentor บอกว่าเป็นไอเดียที่แปลกและไม่มีคนทำ ในขณะที่ P2P ดูโหลมาก ประกอบกับหลังจากอ่านกฎหมายอย่างละเอียดอีกครั้งก็พบว่าไอเดียเราไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร

โชคดี(?)ที่ฝั่ง demo ยังไม่ถึงไหนก็เลยเลี้ยวกลับได้ แต่ challenge ใหญ่หลวงคือต้องส่งงานตอนเที่ยงวันพรุ่งนี้ และเหลือเวลาอีกแค่ 16 ชม. ถือว่าหนักเอาการ

ระหว่างนี้มี session ที่น่าสนใจชื่อ “Picth to win!” โดยพี่ JoeZ พิธีกรสุดหล่อของเรา session นี้ให้คำแนะนำในการทำ slide และ presentation ที่ดีมาก และสามารถนำไปใช้ได้กับทุก presentation เลย

หลังจบ session ก็เริ่มปั่น demo กันอย่างหนัก แก้บั๊ก backend ที่ไม่เข้าใจว่ามายังไงเหมือนกัน ช่วงนี้คือเดินเข้าไปหา technical support team บ่อยมาก และทีมพี่ ๆ ก็เก่งมากจริง ๆ สุดท้ายก็แก้บั๊กของ authentication/authorization เสร็จและลุยต่อ API กับ frontend จนถึงตีสามแล้วก็หลับไป

Day 3

วันนี้ตื่นมา 6 โมงเช้ายังเห็นพี่ฟานั่งทำงานอยู่และยังไม่ได้นอนเพราะยังมีบางหน้าไม่เสร็จและต่อกับ backend นับถือในสปิริตพี่มาก ๆ ครับ (ปรบมือ)

หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จแล้วก็ลุยแก้บั๊กระบบ deeplink ต่อ นั่งงมอยู่นานจนถามพี่ทีม tech support อีกครั้งถึงได้รู้ว่าชื่อ parameter ผิด (ต้องเปลี่ยนจาก ref1 เป็น Ref1) หลังแก้ตรงนี้เสร็จก็ลอง test flow ของ demo ดู ปรากฏว่าเวิร์ค!!! งาน dev ก็เลยจบและเปลี่ยนมาเตรียม pitch แทน

ซ้อม pitching

ซ้อม pitching

ช่วงประมาณ 11 โมงทีมงานได้สุ่มลำดับและห้องที่จะ pitch ซึ่งเป็นโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่ได้ลำดับสุดท้ายเลย

สุ่มลำดับ

เราไปเตรียมตัวกันก่อน pitch จริงประมาณ 5 นาทีที่หน้าห้อง pitch ปรากฏว่า demo พังไปรอบนึงเลยแก้กันง่วนจนใช้ได้ เป็นลางร้ายตั้งแต่ก่อนเริ่ม…

ตอน pitch จริงผ่านไปได้ด้วยดีจนถึงตอน demo ด้วยความที่เน็ตช้ามากและไม่ได้ optimize demo เลยทำให้โหลดค้างนานมากจนไม่ได้โชว์ครบ flow แต่ feedback ดูดีทำให้รู้สึกโล่งใจมาก

Pitching

Pitching

Pitching

Pitching

Pitching

ช่วงประมาณ 16.30 น. ก็ประกาศผลผู้ชนะสามทีมและให้ออกไป pitch อีกครั้ง ผลก็คือเราไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้ชนะ บอกตรง ๆ ว่าแอบเซ็งอยู่เหมือนกัน แต่ยอมรับและชื่นชมผลงานของทีมที่ชนะทั้งสามทีมจริง ๆ

Winners

Winners

Winners

สรุป

ครั้งนี้เป็นงาน Hackathon ครั้งที่สองในชีวิตและครั้งแรกที่เกี่ยวกับ business (Hackathon ครั้งแรกคือ Stupid Hackathon TH #3 อ่านรีวิวได้ที่นี่นะครับ ´・ᴗ・`) รู้สึกว่าเป็น hackathon ที่ให้ความสำคัญกับ technical มากกว่าที่คิดไว้เยอะเลย เพราะได้ยินว่า business hackathon ส่วนใหญ่มักจะวัดกันที่ slide มากกว่า technical

รู้สึกว่าเหนื่อยมากกกกกก นอนสองวันรวมกัน 6 ชม. กว่าจะคิดไอเดียได้ก็วันที่สองตอนเที่ยง แล้วยังต้องปั่น demo ภายใน 16 ชม. ตอนประชุมกันคือเถียงกันหนักมากจนต้องใช้ยาดม แต่บอกได้เลยว่าสนุกมาก ๆ ได้คุยกับคนที่ปกติเจอกันตามอีเวนต์แต่ไม่ได้คุยกัน (เช่น น้องภูมิ) และคนเก่ง ๆ อีกหลายคน

Wireframe & Data model (สนับสนุนโดยยาดมตราโป๊ยเซียน)

ส่วนตัวได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่างจากงานนี้ ทั้งความรู้และแนวคิดการทำธุรกิจจาก mentor มากประสบการณ์ ความเครียดตอนประชุมไอเดียและปั่น demo แบบ 200% และความรู้ทาง technical ด้วย ได้เข้าใจ flow การ authentication/authorization ขึ้นเยอะมาก รวมถึงเรื่องของ Deep linking ด้วย

ถ้าถามว่าจะไปงานอย่างงี้อีกมั้ย? คำตอบคงเป็น “ไม่” ครับ ไม่ใช่เพราะงานไม่ดีนะครับ งานนี้จัดมาดีมาก ๆ สำหรับผม staff ทุกคนเอาใจใส่ผู้เข้าแข่งขันมาก (โดยเฉพาะ technical support ยอมใจสปิริตพี่ ๆ จริง ๆ) สถานที่ดีมาก อาหารเยอะมาก มีเติมขนมตลอด แต่เพราะส่วนตัวไม่ชอบทำงานแนว business เท่าไหร่ ทำให้งานนี้ไม่ตอบโจทย์ dev จ๋า ๆ อย่างผมเท่าไหร่ แต่คิดว่าสำหรับสาย Fintech แล้วคงจะฟินกันไปไม่น้อย

ส่วนเรื่องที่รู้สึกไม่ชอบในงานนี้คือเน็ตกระจอกมากกกกกกกก จะทำอะไรแต่ละทีรอนานเหลือเกิน (Live share หลุดบ่อยมาก) และ API doc ไม่ค่อยละเอียดและเขียนผิดบางจุด เหมือนเขียนให้ทีม dev ของ SCB อ่านเท่านั้น

รูปถ่ายรวม

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทาง SCB และ Naplab ที่จัดงานนี้ขึ้นมาให้ได้แลกเปลี่ยนไอเดียกันอย่างเมามันส์

ขอบคุณ mentor ทุกคนที่ให้คำแนะนำและจี้จุดบอดในไอเดียของเรา

ขอบคุณพี่นัยที่ทำ slide และ pitch ให้ทีม (แม้อยากจะ dev ใจจะขาด)

ขอบคุณพี่เปียวที่ทำ css และซ้อม Q&A กันอย่างดี

ขอบคุณพี่ฟา เดอะแบก frontend ที่อดหลับอดนอนคืนสองเพื่อปั่น demo

และขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ

UtopiaBeam Ⓒ 2019-2023